หน่วยที่ 1


สุขใจที่มีเธอ

เราเกิดมาเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กันและกัน

        เขาผู้เป็นสามีของเธอทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อ้อ...มีอยู่สิ่งเดียวที่เก่ง นั่นก็คือขีดๆเขียนๆปากกาไปเท่านั้น

แม้แต่สมัยแต่งงานใหม่ๆเธอก็ต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการทำตัวเป็นเสมือนคนงานในสถานก่อสร้างอยู่เรื่อยมา

“ดูหลอดไฟนี่สิ กะพริบยังกับในไนต์คลับเลย ทำอะไรสักอย่างสิค่ะคุณ”

        เธอเอ่ยปากบอกสามี

        “ผม...ไม่รู้ ผมทำไม่เป็นน่ะ”

        เขาตอบเธอทั้งๆที่ไม่ได้ลองดูสักนิด

        เธอทั้งเบื่อและเซ็งเขา จากนั้นเธอยกเก้าอี้มาวาง แล้วปีนขึ้นดูหลอดไฟนั้นเสียเอง เธอคงต้องเปลี่ยนหลอดไฟ และเมื่อทำเสร็จ หลอดไฟส่องสว่าง เธอเริ่มอารมณ์ดีขึ้น เธอเข้าใจแล้วว่า ทำไมผู้หญิงผอมบางอย่างเธอต้องมาทำอะไรอย่างนี้

        ชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นแบบนี้ บ่อยครั้งที่เธอต้องเอากรอบรูปต่างๆและกระจกขึ้นแขวนเอง

“นี่คุณ ช่วยเอานี่แขวนหน่อยสิค่ะ”

“ไม่ได้หรอก ขืนติดตอนกลางคืนแบบนี้ ก็รบกวนเพื่อนบ้านสิค่อยทำวันหยุดละกันน่ะ”

        เขาตอบเธออย่างนี้ แต่พอถึงวันหยุด เขาก็ลืมไปแล้วว่า เคยสัญญาอะไรกับเธอไว้ และในที่สุดเธอก็ต้องทำเอง

เธอถือค้อนตอกตะปูกับผนังคอนกรีตเพื่อตรึงกรอบรูปเอง

        “โอ้โห! นี่ผมหาภรรยาได้เหมาะเจาะมากเลยน่ะ ภรรยาของคนอื่นก็แค่ปูผ้าปูที่นอนแล้วก็นอนรอสามีไป แต่ภรรยาของผมน่ะเอาค้อนตอกตะปูเอง แถมเปลี่ยนหลอดไฟเองได้ด้วย

ภรรยาของผมนี่สุดยอดจริงๆ เหมือนแมกไกเวอร์เลยละ”

        ต่อมางานซ่อมบ้านทั้งหลายก็กลายเป็นหน้าที่ของเธอ ช่วงแรกของการแต่งงานทั้งคู่ต่างรับผิดชอบงานบ้านของตนเอง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป หน้าที่ของเธอกลับเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว งานซ่อมเก้าอี้ที่มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด งานซ่อมสวิตซ์ไฟ เธอก็ต้องทำ เธอทำแม้กระทั่งงานไม้ เธอหาซื้อแผ่นไม้กระดานราคาถูกมาทำเป็นกล่องเก็บแผ่นซีดีด้วยมือของเธอเอง

และแล้วนิสัยเธอก็เปลี่ยนไป เธอทนไม่ได้กับการไม่จัดบ้านเป็นเวลา 3 เดือน เธอจัดย้ายตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนใหม่ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนที่วางข้าวของใหม่อีกด้วย ตอนแรกเขาชักสีหน้าตำหนิ แต่ต่อมาการจัดบ้านใหม่นี้ ก็ทำให้เธอได้รับคำชมจากเขา

        เธอเอาเสื้อผ้าเก่าๆ มาทำเป็นเบาะรองตามที่อ่านเจอในนิตยสารแล้วนำพลอยต่างๆ มาตกแต่งอย่างสวยงาม เธอไม่ได้เป็นคนธรรมดาที่ตอนเด็กๆ มักร้องได้ด้วยความขลาดกลัวเมื่อมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต แล้วยังลองทำไม่ได้ คนที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปก็คือสามีของเธอ เขาเป็นสามีที่ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเอามือจับปากกาเขี่ยไปมา เธอต้องคอยทำแทนเขา จนกระทั่งเธอเปลี่ยนไปกลายเป็นแมกไกเวอร์ไปทีละนิด

        “ถ้าลูกของเราโตขึ้น ผมอยากส่งให้เขาเรียนทางด้านตกแต่งภายในจังผมจะสนับสนุนสุดตัวเลย”  เขาเอ่ยพลางมองดูเธอถือค้อนขนะซ่อมหลอดไฟอยู่ เธอนึกเห็นด้วยกับเขาในใจ

        การแต่งงานคือการเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้แก่กัน คนเรานั้นได้พบและแต่งงานกับคนที่ตนเองรัก ก็เพื่อเต็มในสิ่งที่ตนเองขาดหายไป    การที่คู่ของคุณขาดบางสิ่งบางอย่าง ไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เพราะความขาดนั้นเอง ที่ทำให้คุณได้พบและอยู่กับเขา


แหล่งที่มา:สิทธินี ธรรมชัย(2550)ชีวิตคู่อยู่ด้วยรักและเข้าใจ.บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น