สุขใจที่มีเธอ
เราเกิดมาเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กันและกัน
เขาผู้เป็นสามีของเธอทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
อ้อ...มีอยู่สิ่งเดียวที่เก่ง นั่นก็คือขีดๆเขียนๆปากกาไปเท่านั้น
แม้แต่สมัยแต่งงานใหม่ๆเธอก็ต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการทำตัวเป็นเสมือนคนงานในสถานก่อสร้างอยู่เรื่อยมา
“ดูหลอดไฟนี่สิ
กะพริบยังกับในไนต์คลับเลย ทำอะไรสักอย่างสิค่ะคุณ”
เธอเอ่ยปากบอกสามี
“ผม...ไม่รู้
ผมทำไม่เป็นน่ะ”
เขาตอบเธอทั้งๆที่ไม่ได้ลองดูสักนิด
เธอทั้งเบื่อและเซ็งเขา
จากนั้นเธอยกเก้าอี้มาวาง แล้วปีนขึ้นดูหลอดไฟนั้นเสียเอง เธอคงต้องเปลี่ยนหลอดไฟ
และเมื่อทำเสร็จ หลอดไฟส่องสว่าง เธอเริ่มอารมณ์ดีขึ้น เธอเข้าใจแล้วว่า
ทำไมผู้หญิงผอมบางอย่างเธอต้องมาทำอะไรอย่างนี้
ชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นแบบนี้
บ่อยครั้งที่เธอต้องเอากรอบรูปต่างๆและกระจกขึ้นแขวนเอง
“นี่คุณ ช่วยเอานี่แขวนหน่อยสิค่ะ”
“ไม่ได้หรอก ขืนติดตอนกลางคืนแบบนี้
ก็รบกวนเพื่อนบ้านสิค่อยทำวันหยุดละกันน่ะ”
เขาตอบเธออย่างนี้
แต่พอถึงวันหยุด เขาก็ลืมไปแล้วว่า เคยสัญญาอะไรกับเธอไว้ และในที่สุดเธอก็ต้องทำเอง
เธอถือค้อนตอกตะปูกับผนังคอนกรีตเพื่อตรึงกรอบรูปเอง
“โอ้โห! นี่ผมหาภรรยาได้เหมาะเจาะมากเลยน่ะ
ภรรยาของคนอื่นก็แค่ปูผ้าปูที่นอนแล้วก็นอนรอสามีไป
แต่ภรรยาของผมน่ะเอาค้อนตอกตะปูเอง แถมเปลี่ยนหลอดไฟเองได้ด้วย
ภรรยาของผมนี่สุดยอดจริงๆ เหมือนแมกไกเวอร์เลยละ”
ต่อมางานซ่อมบ้านทั้งหลายก็กลายเป็นหน้าที่ของเธอ
ช่วงแรกของการแต่งงานทั้งคู่ต่างรับผิดชอบงานบ้านของตนเอง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป
หน้าที่ของเธอกลับเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว งานซ่อมเก้าอี้ที่มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด
งานซ่อมสวิตซ์ไฟ เธอก็ต้องทำ เธอทำแม้กระทั่งงานไม้
เธอหาซื้อแผ่นไม้กระดานราคาถูกมาทำเป็นกล่องเก็บแผ่นซีดีด้วยมือของเธอเอง
และแล้วนิสัยเธอก็เปลี่ยนไป
เธอทนไม่ได้กับการไม่จัดบ้านเป็นเวลา 3 เดือน
เธอจัดย้ายตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนใหม่
นอกจากนี้ยังเปลี่ยนที่วางข้าวของใหม่อีกด้วย ตอนแรกเขาชักสีหน้าตำหนิ แต่ต่อมาการจัดบ้านใหม่นี้
ก็ทำให้เธอได้รับคำชมจากเขา
เธอเอาเสื้อผ้าเก่าๆ
มาทำเป็นเบาะรองตามที่อ่านเจอในนิตยสารแล้วนำพลอยต่างๆ มาตกแต่งอย่างสวยงาม
เธอไม่ได้เป็นคนธรรมดาที่ตอนเด็กๆ มักร้องได้ด้วยความขลาดกลัวเมื่อมีเรื่องใหม่ๆ
เข้ามาในชีวิต แล้วยังลองทำไม่ได้ คนที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปก็คือสามีของเธอ
เขาเป็นสามีที่ทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเอามือจับปากกาเขี่ยไปมา เธอต้องคอยทำแทนเขา
จนกระทั่งเธอเปลี่ยนไปกลายเป็นแมกไกเวอร์ไปทีละนิด
“ถ้าลูกของเราโตขึ้น
ผมอยากส่งให้เขาเรียนทางด้านตกแต่งภายในจังผมจะสนับสนุนสุดตัวเลย” เขาเอ่ยพลางมองดูเธอถือค้อนขนะซ่อมหลอดไฟอยู่
เธอนึกเห็นด้วยกับเขาในใจ
การแต่งงานคือการเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้แก่กัน
คนเรานั้นได้พบและแต่งงานกับคนที่ตนเองรัก ก็เพื่อเต็มในสิ่งที่ตนเองขาดหายไป การที่คู่ของคุณขาดบางสิ่งบางอย่าง
ไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เพราะความขาดนั้นเอง ที่ทำให้คุณได้พบและอยู่กับเขา
แหล่งที่มา:สิทธินี ธรรมชัย(2550)ชีวิตคู่อยู่ด้วยรักและเข้าใจ.บริษัท
ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น